ผอ.ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาการผลิตมันสำปะหลัง
(แห่งประเทศไทย)
ชี้ทางเลือกใหม่ใช้โดรนพ่นปุ๋ยทางใบ ตามค่าวิเคราะห์ดิน
สามารถลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตอย่างยั่งยืน
นายสรรเสริญ สุนทรทยาภิรมย์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาการผลิตมันสำปะหลัง (แห่งประเทศไทย) กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการปลูกพืชบนดิน คือ การตรวจวิเคราะห์ดินก่อนการปลูก ซึ่งเกษตรกรต้องให้ความใส่ใจ เพราะผลวิเคราะห์ต่างๆคือแนวทางที่จะนำไปปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมก่อนปลูก โดยเฉพาะพืชไร่เกษตรกรต้องสุ่มเก็บตัวอย่างดินอย่างน้อย 15 จุด และในทุกๆ พื้นที่ต้องเก็บตัวอย่างละ 25ไร่ แล้วส่งตรวจที่หน่วยงาน สำนักพัฒนาที่ดิน (สพด.)ในแต่ละจังหวัด เพื่อจะได้เพิ่มหรือลดธาตุอาหารตามค่าวิเคราะห์ดิน
ทั้งนี้ ผอ. ก็ได้กล่าวถึง 2 ช่องทางการรับธาตุอาหารพืช อาทิ ทางดิน กรณีที่ดินมีค่าความเป็นกรดเป็นด่างปกติ 5.5 - 7.0 มีความชื้นเหมาะสมที่จะปลดปล่อยปุ๋ยหลังการใส่ และ ทางใบ กรณีที่ใส่ทางดินไม่ได้ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งเมื่อได้ค่าวิเคราะห์ดินแล้ว ก็ต้องนำแม่ปุ๋ยเคมีมาผสมตามอัตราที่พืชต้องการ คือ “ขาดให้เติม และถ้าเกินต้องตัดออก” เมื่อปัจจัยทุกอย่างเกื้อหนุนตามเกณฑ์มาตรฐานที่พืชต้องการแล้ว จึง ส่งผลให้เจริญเติบโตเต็มที่ ทำให้ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น
ส่วน “โดรน” ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการเกษตรที่ทั่วโลกใช้กันอยู่ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุน ทั้ง ปุ๋ย น้ำ และแรงงาน ได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ กรณีที่ใช้โดรนพ่นปุ๋ยทางใบ ซึ่งปริมาณปากใบในส่วนด้านล่างมากกว่าด้านบน และด้วยแรงลมจากใบพัดที่ทำให้ใบพืชพลิ้วและพลิกรับละอองปุ๋ยที่กำลังพ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้แรงงานคนพ่น ซึ่งมีกำลังลมน้อยและสัมผัสตรงหลังใบเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญ ฝอยละอองก็น้อยกว่าการใช้โดรนพ่น ทำให้เป็นเม็ด น้ำ เปลืองน้ำ เปลืองเวลา และปุ๋ย
ผอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การพ่นด้วยโดรน จะใช้น้ำประมาณ 4 - 4.5 ลิตรต่อไร่เท่านั้น ในขณะที่แรงงานคนพ่นโดยปกติจะใช้น้ำ 60 - 80 ลิตร หรืออาจจะถึง 100 ลิตร ต่อไร่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของสภาพพื้นที่ที่พ่นด้วย เหตุนี้เองจึงทำให้การใช้โดรนสามารถลดต้นทุนได้มากกว่า
อย่างไรก็ตาม ผอ. ยังกล่าวถึงงานวิจัยและทดลองการลดต้นทุนของศูนย์ฯ จากพื้นที่จริง พบว่า ในแปลงทดสอบมันสำปะหลัง (50ไร่) ที่ก่อนหน้านี้ใช้ปุ๋ยเคมีทางดินทั่วไป (15-7-18 , 13-13-21 , 15-15-15) อัตรา 50 กก.ต่อไร่ ต้นทุน 750 - 800 บาท ได้ผลผลิต 3-4 ตัน เมื่อนำแปลงดังกล่าวมาปลูกและใช้ปุ๋ยเคมีทางใบตามค่าวิเคราะห์ดิน พ่น 3 ครั้ง ค่าปุ๋ย 450 – 550 บาท (ตามค่าวิเคราะห์ดินแต่ละแปลง) ผลผลิตได้ 5 ตันเศษ สรุปว่า “เมื่อดินมีปัญหาทางเคมี จะเกิดการตรึงธาตุอาหารไว้ในสารละลายดิน พืชจึงนำไปใช้สร้างการเจริญเติบโตไม่ดีเท่าที่ควรและให้ผลผลิตต่ำ ต่างกับทางใบที่ธาตุอาหารจะซึมซาบเข้าทางผิวและปากใบ โดยไม่มีการตรึงปุ๋ย ทำให้โตไว ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตได้อย่างชัดเจนและยั่งยืน”
#โดรนเกษตร #โดรนพ่นยา #โดรนหว่านปุ๋ย #โดรนฉีดปุ๋ย #โดรนกำจัดศัตรูพืช #บัคอะเวย์